13/9/55

ปอกเปลือกไข่ต้มให้สวยน่ารับประทาน

                    
       ปอกเปลือกไข่ต้มให้สวยน่ารับประทาน         

            ไม่ยากเลยนะคะคุณแม่บ้าน เรื่องการปอกกเปลือกไข่ต้มอาจจะเป็นเรื่องชวนอารมณ์เสียสำหรับ
คุณแม่บ้านมือใหม่บางคน ที่เมื่อไหร่ก็ตามที่สมาชิกในบ้านอยากทานไข่ต้มขึ้นมา คุณจะหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ ใจเย็นๆค่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าเวลาที่ต้องปอกไข่ต้มมันดันไม่สวยน่าทานเอาซะเลยน่ะสิคะ เอาอย่างนี้ดีกว่าเรามีวิธีดีๆมาแนะนำคุณแม่บ้านแล้วล่ะค่ะ..
 

            คุณแม่บ้านมือใหม่และมือเก่าทั้งหลายสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง   โดยนำไข่ต้มสุกใส่
ภาชนะใส่น้ำลงไปให้ท่วมแล้วปิดฝา จากนั้นก็เขย่าแรงๆ น้ำจะเข้าไปแทรกตัวในรอยแตกและการกระแทกกันของไข่ก็เป็นการบุบเปลือก ซึ่งจะทำให้ปอกไข่ได้ง่ายดายและสวยงามน่าทานอีกด้วยล่ะค่ะ แหม ! มีวิธีดีๆแบบนี้มาเป็นตัวช่วยแล้วสาวๆอย่าลืมบอกต่อสาวๆข้างบ้านด้วยนะจ๊ะ



            เคล็ดลับการเก็บรักษาไข่ให้อยู่ได้นาน ๆ             

            เชื่อว่าหลายบ้านที่มักจะซื้อไข่มาเก็บไว้ แล้วก็คงอยากให้ไข่นั้นสดใหม่เสมอ วันนี้เราเลยขอเอา
ใจแม่บ้านทั้งหลายด้วยวิธีการเก็บรักษาไข่ให้อยู่ได้นาน ๆ
 

           ไข่ที่สด สังเกตง่ายๆ คือ ผิวเปลือกไข่จะมีนวลเคลือบอยู่ เมื่อจับผิวจะสากๆ และถ้าลองตอกออกดู ไข่แดงจะนูน ขณะที่ไข่ขาวจะเป็นลิ่มๆ และหากไข่ไม่สดผิวจะค่อนข้างมันลื่น เมื่อตอกออกดู ไข่แดงจะแบนราบ ถ้าใกล้เสีย ไข่แดงจะเละ และจะมารวมกับไข่ขาว
 

            วิธีเก็บรักษาไข่ที่ซื้อมาให้อยู่นานๆ ทำได้โดย เมื่อซื้อไข่มาแล้ว ห้ามล้าง เพราะจะทำให้นวลที่
เคลือบอยู่ ถูกล้างออกหมด เหลือแต่เปลือกไข่ที่มีรูพรุน ทำให้เชื้อโรคสามารถซึมผ่านทางรูพรุนนี้ เข้าไปภายในไข่ ทำให้ไข่เสียเร็วขึ้น และควรเก็บไข่ในช่องเก็บไข่ในตู้เย็น โดยให้ด้านป้านอยู่ด้านบน เพราะด้านป้านจะมีฟองอากาศอยู่ภายใน พอพลิกขึ้นด้านบน จะทำให้ไข่แดงไม่แตกเร็ว ทำให้ไข่อยู่ได้นานขึ้น
 

            ใครอยากมีไข่สดๆ ไว้ทานกันนานๆ ก็ลองนำวิธีที่เรานำมาแนะนำไปใช้กันนะคะ



ที่มาข้อมูล http://www.womanstoryonline.com/index.php

12/8/55

รายชื่อพระภิกษุ สามเณรสอบผ่าน ป.ธ. 9 ปี 50

พระมหาณัฐกร กนฺตวีโร

          ที่วัดสามพระยา กทม. เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 50 มีการประกาศผลสอบบาลีสนามหลวง ซึ่งถือเป็นสุดยอดของการศึกษาคณะสงฆ์ โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เดินทางมาให้กำลังใจแก่พระภิกษุสามเณรที่มารอฟังผลสอบ ก่อนการประกาศผล สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ในฐานะแม่กองบาลีสนามหลวง ได้กล่าวให้โอวาทว่า ปัจจุบันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความสามัคคี ต้องรักกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ บ้านเมืองจะได้อยู่เย็นเป็นสุข สำหรับความสามัคคีนั้น ในหมู่คณะสงฆ์จำเป็นต้องแสดงให้ญาติโยมเห็น อย่าให้เกิดความแตกแยกกันเอง ถึงจะสามารถรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไปได้
        จากนั้น พระธรรมปัญญาภรณ์ เลขานุการแม่กองบาลีสนามหลวง ประกาศรายชื่อพระภิกษุสามเณร ที่สอบได้ ป.ธ. 9 ประโยค ซึ่งถือว่าสูงสุดในการศึกษาของคณะสงฆ์ และในปีนี้มีจำนวน 90 รูป ประกอบด้วย

1. พระมหาณัฐกร กนฺตวีโร วัดจักรวรรดิราชาวาส (ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส พระ
      อารามหลวง)              
2. พระมหาทำนอง จนฺทสาโร วัดจักรวรรดิราชาวาส 
3. พระมหาธิติภาณอภิชาโต วัดจักรวรรดิราชาวาส 
4. พระครูปลัดสัมพิพัฒนธีราจารย์ (สายชล) ฐานวุฑฺโฒ วัดชนะสงคราม
5. พระมหาสามารถ โชติปญฺโญ วัดชนะสงคราม 
6. พระมหาวิรัตน์ อาจารสุโภ วัดชนะสงคราม 
7. พระมหาธงชัย ชยธมฺโม วัดชนะสงคราม 
8. พระมหาครรชิต อติภทฺโท วัดชนะสงคราม 
9. พระมหาอภินันท์ อภิวฑฺฒโน วัด ชนะสงคราม 
10. พระมหาคมสัน วิสุทฺธญาโณ วัดชนะสงคราม 
11. พระมหาเฉลิม เขมจารี วัดชนะสงคราม 
12. พระมหาวิชิต ฐิตธมฺโม วัดราชนัดดาราม 
13. พระมหาถาวร จนฺทสิริ วัดเทพลีลา 
14. พระมหาโอภาส ฐิตญาโณ วัดเทพลีลา 
15. พระมหารุ่งสุริยา สุเมโธ วัดเทพลีลา 
16. พระมหาชัยยุทธ์ กิตฺติญาโณ วัดเทพลีลา 
17. สามเณรสุรพงษ์ วัดเทพลีลา 
18. สามเณรอำนาจ วัดเทพลีลา 
19. พระมหาจรูญ ถิรญาโณ วัดนรนาถสุนทริการาม 
20. พระมหาโดม ปญฺญาธโร วัดนรนาถสุนทริการาม 
21. พระมหาอภิสิทธิ์ เขมาภิสิทฺโธ วัดนรนาถสุนทริการาม 
22. พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี วัดบพิตรพิมุข 
23. พระมหาสนธิ์ ฐิตธมฺโม วัดบรมนิวาส 
24. พระมหาบุญทัม คุตฺตปุญฺโญ วัดพุทธบูชา 
25. พระมหาสนิท ถิรธมฺโม วัดเทวราชกุญชร 
26. พระมหานิรัญ ชิตมาโร วัดเทวราชกุญชร 
27. พระมหาวิลัย เขมนนฺโท วัดบางนาใน 
28. พระมหาประเทือง เขมทสฺสี วัดพรหมวงศาราม 
29. พระมหาบุญทำ ธมฺมธีโร วัดราชสิงขร 
30. พระมหาสุทธิวิทย์ สุชีโว วัดราชสิงขร 
31. พระมหาบัณฑิต ปณฺฑิตเมธี วัดราชสิงขร 
32. สามเณรอัมราช วัดราชสิงขร 
33. พระมหาพีรนัย กลฺยาณเมธี วัดสร้อยทอง 
34. พระมหาบุญส่ง สิริภทฺโท วัดสร้อยทอง 
35. พระมหาทวิช กิตฺติญาโณ วัดสร้อยทอง 
36. พระมหาบุญเพิ่ม สุริยรํสี วัดสร้อยทอง 
37. พระมหาสุวิทย์ อินฺทปญฺโญ วัดสร้อยทอง 
38. สามเณรไพรสณฑ์ วัดสระเกศ 
39. พระมหาเสฎฐวุฒิ วชิรญาโณ วัดสามพระยา 
40. สามเณรประจักษ์ วัดสามพระยา 
41. พระมหาเกรียงไกร โสภณจิตฺโต วัดสังเวชวิศยาราม 
42. พระมหาสุริยา อภิวฑฺฒโน วัดใหม่อมตรส 
43. พระมหาธงไชย วิสุทฺโธ วัดใหม่อมตรส 
44. พระมหาเสนิญุสม์ สมทสฺสี วัดสุทัศนเทพวราราม 
45. พระมหาชาติชาย ปิยธมฺโม วัดโสมนัสวิหาร 
46. พระมหาไพบูลย์ ฐานวโร วัดสวนพลู 
47. พระมหาสมคิด สุนฺทรธมฺโม วัดต้นไทรย์ 
48. สามเณรสมอาจ วัดดาวดึงษาราม 
49. พระมหาสุรชัย ชยวโร วัดบุณยประดิษฐ์ 
50. พระมหาธีระสุข ธมฺมสาโร วัดโมลีโลกยาราม 
51. พระมหาโกสุมัญ วรโกวิโท วัดโมลีโลกยาราม 
52. พระมหาวิเชียร วรคุโณ วัดโมลีโลกยาราม 
53. พระมหาอภิลักษณ์ ปญฺญาวโร วัดโมลีโลกยามราม 
54. พระมหาบรรเรง นิสมฺมการี วัดราชโอรสาราม 
55. พระมหาพรสวรรค์ กิตฺติวโร วัดราชโอรสาราม 
56. สามเณรสุชิน วัดราชโอรสาราม 
57. พระมหานิติพล ปิยสีโล วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี 
58. พระมหาสมหมาย ฐิตเมโธ วัดแคนอก จ.นนทบุรี 
59. พระมหาสมชาย ขนฺติธโร วัดบางไผ่ จ.นนทบุรี 
60. พระมหาจุมพล จิตฺตพโล วัดบ้านพร้าวนอก จ.ปทุมธานี 
61. พระมหาสมบัติ อินฺทปญฺโญ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี 
62. พระมหาประทีป ทีปชโย วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี 
63. พระมหาสิงหนาท สีหชโย วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี 
64. พระมหาภัทรชัย กิตฺติชโย วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี 
65. พระมหาทองสุข วิสุทฺธสีโล วัดหัวคู้ จ.สมุทรปราการ 
66. พระมหาสัญชัย ชยสิทฺธิโก วัดโปรดเกศเชษฐาราม จ.สมุทรปราการ
67. พระมหาเชิดชัย กตปุญฺโญ วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา 
68. พระมหาวิเชียร วชิรเมธี วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี 
69. พระมหาวัฒนา โชติธมฺโม วัดพระนอนจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี 
70. พระมหาสกุล โกสโล วัดหนองโว้ง จ.สุโขทัย 
71. สามเณร สมบัติ วัดจองคำ จ.ลำปาง 
72. สามเณรขวัญชัย วัดจองคำ จ.ลำปาง 
73. พระมหายุทธกิจ ปญฺญาวุโธ วัดศรีโสดา จ.เชียงใหม่ 
74. พระมหาปัญญา ตปฺปโร วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี 
75. สามเณรเสริมศักดิ์ วัดชัยมงคล จ.ชลบุรี 
76. พระมหาวิเชียร ฐิตปุญฺโญ วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม 
77. พระมหาบุญลือ วิชฺชากโร วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม 
78. พระมหาไพโรจน์ ปญฺญาวชิโร วัดพระประโทณเจดีย์ จ.นครปฐม
79. พระมหาณรงค์ พุทฺธสโร วัดวังตะกู จ.นครปฐม 
80. พระมหาสมศักดิ์ สุขุมาโล วัดวังตะกู จ.นครปฐม 
81. พระมหาธีระนันท์ ธีรนนฺโท วัดป้อมวิเชียรโชติการา จ.สมุทรสาคร
82. พระมหาภูมิชาย อคฺคปญฺโญ วัดเขาวัง จ.ราชบุรี 
83. พระมหากังวาล ธีรธมฺโม วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี
84. พระมหาวรรณพงศ์ วณฺณวํโส  วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี
85. พระมหาณัฐินันท์ ฐิตเมโธ  วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม  จ.ราชบุรี
86. สามเณรฉัตรชัย วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี 
87. พระมหาสมจิน อาภสฺสโร วัดเพชรสมุทร จ.สมุทรสงคราม 
88. พระมหาบุญช่วย ปคฺโณ วัดแจ้ง จ.นครศรีธรรมราช 
89. สามเณรอนุวัติ วัดขันเงิน จ.ชุมพร 
90. พระมหาวิสุทธิ์ อิสิญาโณ วัดเลียบ จ.สงขลา

ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

10/7/55

เผยพระ 48 รูป 10 สามเณรเก่งสอบได้เปรียญ 9

พระมหาบุลวัชร จิตคุโณ

               ผู้สื่อข่าว รายงานผลการสอบ "บาลีสนามหลวง" ของคณะสงฆ์ไทยประจำปี 2547 ว่า ที่วัดสามพระยา กทม. เมื่อบ่ายวันที่ 11 มี.ค. มีการประกาศรายนามผู้สอบผ่าน "บาลีสนามหลวง" ประจำปี 2547 ซึ่งเป็นการสอบประลองความรู้ครั้งใหญ่ ของพระทั่วประเทศที่จัดขึ้นทุกปี มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ แม่กองบาลี เป็นประธาน กระทั่งเวลา 14.00 น. นาทีที่พระทั่วประเทศรอคอยมาถึง เมื่อพระเทพมุนี วัดปากน้ำ เลขานุการแม่กองบาลี ขึ้นประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน ป.ธ.9 สุดยอดความรู้แห่งสายบาลี เรียกเสียงฮือฮาลั่นห้องประชุม เมื่อมีการอ่านรายชื่อผู้สอบผ่าน พระเณรที่นั่งฟังผลและทราบว่าตัวเองสอบผ่าน และเจ้าสำนักเรียนถึงกับกระโดดตัวลอย ด้วยความดีใจ โดยเฉพาะพระราชสุธี วัดเทวราชกุญชร ได้นำเช็คเงินสดจำนวน 1 แสนบาท และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมามอบให้พระของวัดที่สอบได้ถึงสนามสอบ

สำหรับสามเณรที่สอบผ่าน ป.ธ.9 มีจำนวน 10 รูป ประกอบด้วย 

1. สามเณรไมตรี กองแสน อายุ 20 ปี        วัดราชบพิธ 
2. สามเณรเศรษฐา หินศิลา อายุ 22 ปี       วัดราชสิงขร 
3. สามเณรสุรไกร คงบุญวาสน์ อายุ 21 ปี  วัดปากน้ำ 
4. สามเณรเดชอุดม แสงบุญ อายุ 22 ปี      วัดโมลีโลกยาราม 
5. สามเณรจำเนียร บุญมา อายุ 20 ปี         วัดศรีประวัติ จ.นนทบุรี 
6. สามเณรจันทร์ดี เหตุเกษ อายุ 23 ปี       วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี 
7. สามเณรเฉลิมรัตน์ ชัยภา อายุ 23 ปี       วัดหัวช้าง จ.ลพบุรี 
8. สามเณรดนัย เกตุตากแดด อายุ 21 ปี     วัดจองคำ จ.ลำปาง 
9. สามเณรสุรคิด สุนทะวงศ์ อายุ 21 ปี       วัดจองคำ จ.ลำปาง และ 
10. สามเณรไพโรจน์ แสงปลอง อายุ 22 ปี  วัดขันเงิน จ.ชุมพร

ส่วนพระภิกษุที่สอบผ่าน ป.ธ.9 มี 48 รูป แบ่งเป็นวัดต่างๆ ดังนี้ 

1. วัดชนะสงคราม      พระมหาธนิต ขนฺติโก พระมหาสนั่น อุตฺตมเสฏโฐ 
2. วัดบพิตรพิมุข        พระมหาคุณากร ฐิตโสภโณ 
3. วัดบวรนิเวศ          พระมหาไฉน จิตฺตสุทฺโธ 
4. วัดเทวราชกุญชร    พระมหาสุทธิวัฒน์ ภูริญาโณ 
5. วัดบางนาใน          พระมหาสนอง อนุภทฺโท พระมหาจำลอง กตธมฺโม 
6. วัดปทุมคงคา         พระมหาภาณุพงศ์ พฺรหฺมสิริ พระมหาอภิชัย อภิชโย 
7. วัดเชตุพน         พระมหาธีระพงษ์ ธีรวํโส พระมหาลักษณ์ อารทฺธวิริโย 
8. วัดมหาธาตุ           พระมหาธีรโชติ ธีรปญฺโญ 
9. วัดมหาพฤฒาราม  พระมหาเดชา จิตญาณเมธี 
10. วัดราชสิงขร        พระมหาสุชาติ ถิรญาโณ 
11. วัดสร้อยทอง   พระมหาบุญนภัสร์ ถิรปุญโญ, พระมหาสนอง นาควโร  
       พระมหาปรีชา ภทฺทปญฺโญ พระมหาคำตัล พุทฺธงฺกุโร 
12. วัดสามพระยา พระมหาบรรเจิด สิริธโร พระมหาสุรเดช สนฺติธมฺโม  
       พระมหามนูญ ธมฺมธโร 
13. วัดสังเวช              พระมหาลำดวน ฐานวโร 
14. วัดใหม่อมตรส      พระมหาคำจันทร์ กตปุญฺโญ 
15. วัดสวนพลู            พระมหาชมพู ญาณมุนิ 
16. วัดสุทธิวราราม      พระมหาบุลวัชร จิตคุโณ 
17. วัดราชโอรสาราม   พระมหาโสภณ วิจิตฺตธมฺโม 
18. วัดใหม่พิเรนทร์     พระมหาณรงค์ฤทธิ์ อคฺครตโน 
19. วัดชลประทานรังสฤษฎ์ จ.นนทบุรี  พระมหาสุรศักดิ์ ธนปาโล พระมหา
       ชัยรัตน์ ฐิตเมโธ 
20. วัดบางไผ่ จ.นนทบุรี             พระมหาเชฏฐกร ชยานนฺโท 
21. วัดเทียนถวาย จ.ปทุมธานี      พระมหาสมศักดิ์ สมสตฺติโก  
22. วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี  พระมหาวีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโก     
       พระมหาธนาวิทย์ ธนวิชฺโช   พระมหาไผ่  พุทฺธิสมฺปุณโณฺ  พระมหา   
       ทิพย์ โอภาสโก  พระมหาธีรธรรม ธมฺมธีโร  พระมหาสมพร พุทฺธิธโร
       พระมหาสมปรีดา  สุมนชโย  พระมหายงยุทธ วิชฺชาชโย 
23. วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี           พระมหาสิทธิราช ครุธมฺโม 
24. วัดบ้านใหม่ จ.ชัยนาท           พระมหาดำรงค์ จิรธมฺโม 
25. วัดประชานิมิต                     พระมหาถาวร ถาวรเมธี 
26. วัดหนองโว้ง จ.สุโขทัย          พระมหาสิทธิชัย ปริยตฺติเมธี 
27. วัดแจ้งแสงอรุณ จ.สกลนคร   พระมหาอ้ม คมฺภีรปญโญ 
28. วัดยางน้อย จ.อุบลราชธานี     พระมหานราธิป ชินญาโณ 
29. วัดบ่อทองราษฎร์บำรุง จ.ชลบุรี พระมหาชาญชัย ชยธมฺโม 
30. วัดพระงาม จ.นครปฐม  พระมหาทินกร อิสฺสโร   พระมหาสมเพชร
       วชิรญาโณ

ด้านพระเทพมุนี เลขานุการแม่กองบาลี กล่าวว่า ผลการสอบอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ ภาษาบาลียังเป็นมนต์ขลังท้าทายความรู้ความสามารถของพระเณร โดยปีนี้ถือว่าเป็นวาระมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับการสอบบาลีสนามหลวง ให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงพระราชทานทุนการศึกษาให้กับนักเรียนบาลีตั้งแต่ ป.ธ.5-9 จำนวน 76 ทุนทุกปี เริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป





จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

24/2/55

สอบคัดเลือกพระเข้าโครงการอบรมพระธรรมทูตฯ รุ่นที่ ๑๘

        เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยกองวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานอธิการบดี เปิดสอบข้อเขียนเพื่อคัดเลือกพระภิกษุเข้าอบรมในโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๘ เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ห้องประชุม ดี(เธียเตอร์ D)อาคารเรียนรวมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา โดยมี พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ (ไสว โชติโก) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มจร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เป็นประธานเปิดการสอบ
          การสอบคัดเลือกในปีนี้มีผู้สมัครสอบทั้งหมด ๑๒๓ รูป จากทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จากนั้นจะประกอบพิธีเปิดการอบรมในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๕ และจะเดินทางไปอบรมภาคสาธารณูปการและภาควิปัสสนากรรมฐาน ณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 

         ผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพค่าภัตตาหารและน้ำปานะพระภิกษุผู้เข้ารับ การอบรมในโครงการฯ ได้ที่ กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานอธิการบดี มจร วัดมหาธาตุ และกองวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานอธิการบดี มจร อยุธยา โทรศัพท์ ๐-๒๖๒๓-๕๓๖๘, ๐-๓๕๒๔-๘๐๖๕, ๐๘-๑๓๗๑-๘๘๑๒, ๐๘-๕๘๔๘-๗๖๕๙  

********(^-^)********
วันที่ ๒๕/๐๒/๒๐๑๒
ประกาศผลสอบข้อเขียน
โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๘
ประจำปี ๒๕๕๕

มีผู้สอบผ่านข้อเขียนทั้งหมด ๑๑๕ รูป
ให้ผู้มีรายนามดังกล่าวมาลงทะเบียนและเข้าสอบสัมภาษณ์
ในวันจันทร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ น.
ณ อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา ผู้ที่ไม่มาลงทะเบียนเข้าสอบสัมภาษณ์ถือว่าสละสิทธิ
  
กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานอธิการบดี

********(^_^)********
  
ประกาศผลสอบสัมภาษณ์พระธรรมทูต รุ่นที่ ๑๘
วันที่ ๒๘/๐๒/๒๐๑๒

          คณะกรรมการดำเนินงาน โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๘ ได้ดำเนินการจัดสอบสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรมในโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๘ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เฉลิมพระเกียรติฯ  เป็นที่เรียบร้อย และได้ออกประกาศรายนามผู้ผ่านการการคัดเลือก และผู้ติดสำรองเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ ก.พ. ๒๕๕๕  ดังมีรายชื่อต่อไปนี้



ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.mcu.ac.th


2/2/55

ข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐานที่ต้องฝึก


ข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐานที่ต้องฝึกเพื่อช่วยพัฒนาสังคม ประเทศชาติ

     >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะช่วยกันรักษาความสะอาด โดยไม่ทิ้งขยะ, เศษขยะ ในที่ ๆ ไม่ใช่ที่ทิ้งขยะ
      >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะช่วยกันรักษาความสะอาด โดยไม่บ้วนน้ำลาย ขากเสลดทิ้ง ตามถนน หนทาง หรือในที่ ๆ ไม่ควรทำ
     >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะช่วยกันรักษาความสะอาด โดยไม่มือบอนเอาวัตถุสิ่งของ เช่น แก้วพลาสติกไปอุดท่อระบายน้ำตามท้องถนน, ตามซอย, ตามสวนสาธารณะ เป็นต้น อันเป็นเหตุให้การระบายน้ำไม่คล่องตัว
       >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะทำความดีโดยไม่ต้องให้ผู้อื่นรู้เห็น
     >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะช่วยกันรักษากฏการจราจร เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนและผู้อื่น
     >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะไม่ทำลาย ตน,เยาวชน, สังคม, ประเทศชาติ ด้วยการเสพยาเสพติด หรือค้า เพื่อหวังรวยทางลัด
     >เคยคิด หรือตั้งประณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่บ้างไหมว่าจะปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ริษยา ไม่โกง ไม่พาล
ไม่ควรให้ภาพแบบนี้ปรากฏใกล้บ้านท่าน

30/1/55

คำถวายสังฆทาน (รูปแบบสากล ที่นิยมใช้โดยทั่วไป)

       การถวายของที่เหมาะแก่สมณสารูป (สมควร เหมาะสมแก่สมณะ)   แก่พระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนา   มี 2 ประเภท คือ
        1. บุคลิกทาน ทานที่ทายก ทายิกา (ผู้ให้) ถวายจำเพาะเจาะจงแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่ตนปรารถนา         นี้จัดเป็นบุคลิกทาน
       2. สังฆทาน คือทานที่ทายก ทายิกา ถวายแก่สงฆ์ แก่คณะ (4รูปขึ้นไปนับเป็นสงฆ์ หรือนิมนต์ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง รับแทนสงฆ์ก็ใช้ได้เหมือนกัน) โดยไม่จำเพาะเจาะจงกับภิกษุรูปใด นี้จัดเป็นสังฆทาน
        ในบรรดาทาน 2 อย่างนั้น     สังฆทาน พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีผลานิสงส์มากกว่าบุคลิกทาน   เพราะมีผลจากการใช้ประโยชน์จากของสิ่งนั้น จากของเหล่านั้น กว้างกว่า แผ่ไพศาลมากกว่า เปรียบเหมือนทรัพย์สินของทางการที่มีไว้เพื่อบริการสาธารณชน ย่อมจะมีผล หรือเป็นประโยชน์มากกว่า ๆ ทรัพย์สินของปัจเจกชน หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่มีไว้ใช้เพื่อคน ๆ หนึ่ง หรือคนกลุ่มหนึ่ง อย่างนั้น.  ของเช่นไรจัดเป็นสังฆทาน ข้าวหม้อแกงหม้อ ที่นำไปถวายแก่สงฆ์ นี้จัดเป็นสังฆทาน     น้ำเปล่าประเภทน้ำดื่มแค่อย่างเดียวที่นำไปถวายแก่สงฆ์ นี้ก็จัดเป็นสังฆทาน สิ่งของที่พระจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน น้ำยาขจัดรังแค ทำความสะอาดศีรษะ ผงซักฟอก เป็นต้น เมื่อนำไปถวายแก่สงฆ์ นี้ก็จัดเป็นสังฆทาน  คำว่าสังฆทานไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งของที่อยู่ในถังเหลือง ๆ หรือบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ที่ผู้ค้าได้จัดเตรียมไว้ แต่ขึ้นอยู่กับการนำสิ่งของนั้น หรือสิ่งของเหล่านั้น ไปถวายในนามสงฆ์นั่นเอง.
            คำกล่าวถวายสังฆทานภาษาบาลี
          อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ
            คำแปลไทย (ได้ขัดเกลาใหม่ เพื่อให้เนื้อหาสั้นกะทัดรัด และง่ายต่อการออกเสียง)
          ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายภัตตาหาร พร้อมด้วยบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์ ได้โปรดรับ ภัตตาหารพร้อมด้วยบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนาน เทอญ.
          คำขีดเส้นใต้ คือสิ่งของที่เป็นอาหาร แต่ถ้าไม่ใช่อาหาร หากมีผ้าไตรจีวร หรือยา เป็นต้น เป็นหนึ่งในจำนวนสิ่งของที่นำไปถวาย ก็ยกผ้าไตร หรือยาเป็นตัวหลักในการกล่าว (ติจีวะรานิ ผ้าไตรจีวร) (เภสัชชานิ ยารักษาโรค) (อุทะกานิ น้ำดื่ม) (ปะทีปะธูปานิ เทียนและธูป) นำคำในวงเล็บแทนคำขีดเส้นใต้ได้เลย สิ่งของที่เหลืออย่างอื่นก็จะเป็นบริวารไปในตัว. หากไม่ถนัดภาษาบาลี ก็ใช้ภาษาไทยได้ตามสะดวก จะว่าเป็นรูปแบบอย่างที่ได้กล่าวไว้ด้านบน หรือจะกล่าวความประสงค์ง่าย ๆ ว่าขอถวายของสิ่งนี้ ๆ แก่สงฆ์  เพียงเท่านี้ก็จัดว่าเป็นการถวายสังฆทานโดยสมบูรณ์ แล.

อีกอย่าง ขอชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถวายสังฆทานที่ว่า สังฆะทานานิ ได้เห็นและได้ยินมาพักหนึ่งแล้ว มีผู้ใช้ว่า อิมานิ มะยัง ภันเต สังฆะทานานิ ...................คำ ๆ นี้แปลว่า ให้แก่สงฆ์,ถวายแก่สงฆ์  มันไม่ได้เป็นชื่อของวัตถุที่จะถวาย  จะขอแปลให้ดู ลองพิจารณาดูนะ  "ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ  ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายการให้แก่สงฆ์ พร้อมด้วยบริวารเหล่านี้......................"  ถวายการให้แก่สงฆ์มันคืออะไร แปลแล้วงง  ไม่ได้ความหมายที่ถูกต้อง   คาดว่าคำนี้เกิดจากความไม่รู้ไม่เข้าใจแล้วมักง่ายไปบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใช้ใหม่ ตอนนี้เริ่มแพร่หลาย คิดว่าพวกท่านก็คงได้เห็นได้ยินเหมือน ๆ กับข้าพเจ้า   ถ้าได้ยกบาลีขึ้นมากล่าวก็ควรใช้ศัพท์ให้ถูกต้องเพื่อเป็นหลักเป็นแบบแผนที่ดีให้ได้ยึดถือกัน   เราท่านทั้งหลายควรคำนึงถึงข้อนี้ 

ประเคน  

23/1/55

งานปรับปรุง ซ่อมแซม



          ระหว่างวันที่ 14-22 มกราคม 2555 ได้มีโอกาสไปต่อเติม ซ่อมแซมกุฏิไม้ ณ ที่พักสงฆ์คลองพวา ต. ท่ากระดาน อ. สนามชัยเขต จ. ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหลังที่พระอาจารย์ วีระ กิจจะกาโร ได้พาญาติโยมชาวบ้านคลองพวา รื้อจากหลังเก่าที่ได้สร้างไว้เมื่อร่วม 20 ปีที่แล้วมาสร้างใหม่ (รื้อต้นปี 54 ที่ผ่านมา) สภาพไม้ยังสมบูรณ์ แต่สังกะสีเก่า ใช้การได้ไม่ดีพอ เป็นเหตุให้ผู้เขียนเองได้ปรารภที่จะช่วยชาวบ้านและทางวัดอีกแรงหนึ่ง จึงได้ต่อเติม ซ่อมแซมใหม่ โดยการเปลี่ยนจากสังกะสีมาเป็นกระเบื้อง และทาสีใหม่ทั้งหลัง ค่าวัสดุอุปกรณ์ 18,624 บาท และค่าช่าง 7,400 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 26,224 บาท.
       ในการนี้ คือในส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามที่กล่าวมา ได้มีส่วนของคณะศรัทธาญาติโยมในกรุงเทพฯ ที่รู้ข่าวร่วมด้วย โดยการนำของคุณดา บอกคนใกล้ชิดและผู้ที่รู้จัก ร่วมกันบริจาคปัจจัยสมทบเป็นจำนวน 5,200 บาทถ้วน ทั้งที่ผู้เขียนเองก็ไม่เคยเอ่ยปากบอกบุญเลย ถือว่าปัจจัยส่วนนี้เป็นส่วนที่บริสุทธิ์และมาจากศรัทธาจริง ๆ  จึงขอขอบคุณ อนุโมทนาสาธุการมา ณ ที่นี้ด้วย.

ช่างทั้งหมด 4 คน
 เริ่มต้นรื้อหลังคาสังกะสี วันอังคารที่ 17 มกราคม
 อีกด้านของกุฏิ
อีกมุมมองหนึ่ง
มุมมองแนวตรงระยะไกล
กำลังมุงกระเบื้องหลังคา
หลังจากมุงฝั่งโน้นเสร็จก็รื้อสังกะสีอีกฝัง
หลังจากมุงหลังคาได้ประมาณ 95% แล้ว ก็เริ่มทาสีรองพื้น
มุงกระเบื้องและทาสี 3 รอบเสร็จสมบูรณ์ (ใช้เวลา 5 วัน เนื่องจากต้องแก้ไขโครงสร้างไม้บางส่วนให้เข้ากับกระเบื้อง)
 อีกมุมมองหนึ่ง
พระอาจารย์ วีระ กิจจะกาโร กับกุฏิที่ปรับปรุงใหม่
อีกมุมหนึ่ง
ศาลาและกุฏิที่ปรับปรุงใหม่จะอยู่ด้านใต้สุดของวัด
กุฏิหลังนี้ที่ผู้เขียนได้สร้างไว้เมื่อกลางปี 2544 จะอยู่ด้านเหนือเกือบสุดของวัด












ความคิดเห็นล่าสุดจากผู้เข้าเยี่ยมชม

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger