30/12/53

สำคัญที่ใจ



              ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษาแล้ว ก็มีหลายรูปแบบ มีทั้งรูปแบบที่เป็นระบบที่ประกอบด้วยอาคาร ห้องเรียน ครู นักเรียนมากกว่าสองขึ้นไป บางครั้ง บางโอกาสก็ศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียน  ค้นคว้า  วิจัย มีการประเมินผลการเรียนการสอนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ (ยุคนี้ทุกคนต้องผ่านการศึกษารูปแบบนี้อยู่แล้ว อย่างน้อยก็จบระดับประถม) นี้อย่างหนึ่ง อีกอย่างก็คือการศึกษา การค้นคว้าที่ไม่มีรูปแบบ ไม่มีระบบ ไม่มีกฏตายตัว จะมีผู้แนะนำ(ครู)หรือไม่ก็ได้ การประเมินผลก็ขึ้นอยู่กับผู้ศึกษาเอง เรียนรู้เรื่องวิธีการประกอบอาชีพสาขาต่าง ๆ อย่าง เรียนรู้การซื้อขายสินค้า นี้ก็ศึกษา เรียนรู้การซ่อมอุปกรณ์ด้วยตัวเอง นี้ก็ศึกษา  เรียนรู้การทำปุ๋ยรูปแบบต่าง ๆ นี้ก็ศึกษา เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน นี้ก็ศึกษา มีต่าง ๆ นานา รูปแบบนี้ศึกษาทั้งชีวิต  จนกว่าจะวายปราณ 
          เมื่อพูดถึงการวายปราณ ม้วยมอด มรณาแล้ว เลยนึกถึงคำพูดของครูท่านหนึ่ง ณ สถานศึกษา

29/12/53

ส่วนเติมเต็มของ....

           ห้าสิบสตางค์-หนึ่งบาท เมื่อประมาณสามสิบปีก่อนหน้านี้ มีค่ามากพอที่จะซื้อขนมมากินได้  ซื้อน้ำแข็งไสราดน้ำหวานกลิ่นต่าง ๆ มาดื่มได้  สิ่งที่กล่าวมามีค่าเต็มเบ็ดเสร็จพอที่จะซื้อได้ตามลำพังของมันเอง     ปัจจุบันนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่ค่าเต็มก็ยังมี แต่มีในฐานะทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มเท่านั้น   ทุกสิ่งที่เราสัมผัสได้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ล้วนแล้วแต่อาศัยกันและกันเกิดขึ้น.
                                                   

                                    Quick & Easy
                                                        


Story board

26/12/53

The goal of....


25/12/53

รวมภาพที่ถ่าย


22/12/53

คำบ้านแลคำวัด



        
                       คำบ้าน                      คำวัด

                                         สวัสดีครับ/ค่ะ                                   เจริญพร
                                         ครับ,ค่ะ,ขอรับ,เจ้าค่ะ                         เจริญพร
                                         ผม,กระผม,ดิฉัน....                           อาตมา,อาตมภาพ
                                         คน,ท่าน                                           รูป
                                         กิน,รับประทาน                                  ฉัน,พิจารณา
                                         อาบน้ำ                                             สรงน้ำ
                                         ห้องน้ำ                                             ฐาน,เวจกุฏี(ไม่นิยมใช้)
                                         ตาย,ถึงแก่กรรม,มรณะ                        มรณภาพ
                                         ป่วย,ไม่สบาย                                    อาพาธ
                                         นอน                                                จำวัด
                                         เชิญ,เรียนเชิญ                                   นิมนต์
                                         จดหมาย                                           ลิขิต
                                         เงินเดือน                                           นิตยภัต
                                         มื้อกลางวัน(เที่ยง)                               ภัตตาหารเพล
                                         โกนผม,โกนหนวด                               ปลงผม,ปลงหนวด
                                         เครื่องดื่ม(น้ำผลไม้)                             น้ำปานะ
                                         บ้าน,ที่พัก                                         กุฏิ
                                       

คำที่ใช้ต่างกัน(ที่นิยมใช้)ก็เห็นจะมีเพียงนี้ (ถ้าคำไหนตกหล่นไป อาจมีการอับเดสเพิ่มเติม) ส่วนคำว่าเจริญพรที่เป็นคำตอบรับใช้กับผู้ใหญ่ หรือผู้ที่ให้ความนับถือ จะไม่ใช้คำว่า ครับ ครับผม ถ้ากันเองหรือใช้กับเด็กก็อาจจะใช้คำตอบรับทั่ว ๆ ไป เช่น จ๊ะ จ๊า ใช่ ใช่แล้ว ถูกแล้ว เป็นต้น




20/12/53

ธรรมชาติของจิต


  จิต
มีธรรมชาติดิ้นรน, เร็ว, กลับกลอก
ฝึกได้ยาก, รักษาได้ยาก, ห้ามได้ยาก
เปรียบเสมือนลิงที่มีธรรมชาติซุกซน
จับได้ยาก, ฝึกได้ยาก ฉะนั้น
  









ครั้งหนึ่งในชีวิต

     
     ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้เห็นได้ยินคนป่วยจำนวนมากที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่าง ๆ จำแนกไปตามอาการของแต่ละคนกันออกไป   บ้างก็มีอาการเล็กน้อย(อย่างเป็นไข้หวัด เป็นต้น) หมอตรวจสุขภาพโดยผ่านการวัดความดัน สอบถามอาการ ให้ยาแล้วกลับบ้านได้      บ้างก็มีอาการหนักขึ้นมาหน่อยถึงขั้นนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

12/12/53

มือปืนเพชรตัดเพชร

         
          เนื้อเรื่องของหนังดำเนินเรื่องราวอยู่ในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกาว่าด้วยเรื่องราวของขุมทอง…และชายสามคนที่ต้องการมัน     คนหนึ่งเป็น“ไอ้เก่ง (The Good)” บุรุษนิรนามผู้มีฝีมือยิงปืนแม่นราวจับวาง (Clint Eastwood)อีกคนหนึ่งเป็น“ไอ้เลว (The Bad)”นายทหารยศสูงผู้มีอีกโฉมหน้าหนึ่งเป็นมือปืนรับจ้างผู้หวังจะฮุบทองคำทั้งหมดเอาไว้คนเดียว (Lee Van Cleef) และอีกคนหนึ่งเป็น“ไอ้อัปลักษณ์ (The Ugly)” โจรกระจอกผู้ไม่ยอมให้อะไรมาขวางทางระหว่างตัวเองกับขุมทองทั้งนั้น (Eli Wallach)สุดท้ายแล้ว ใครจะได้ความมั่งคั่งนี้ไปครอบครองกันแน่? โปรดติดตามต่อได้ใน The Good  ,   the Bad  ,   and the Ugly …The Good  ,   the Bad  ,   and the Ugly  คือหนังปิดท้ายไตรภาค The Dollars Trilogy ไตรภาคหนังคาวบอยสปาเก็ตตี้ (Spaghetti Western เป็นคำที่ใช้เรียกหนังคาวบอยที่อำนวยการสร้างและกำกับโดยชาวอีตาลี)  ของผกก. Sergio Leone  (ต่อจากนี้ผมขอเรียกชื่อหนังเรื่องนี้สั้นๆว่า GB&U)




        GB&U เป็นหนังที่ได้รับการยอมรับ(โดยคนดูส่วนใหญ่)ให้เป็นหนังภาคที่ดีที่สุดในไตรภาค และได้รับการยกย่อง(โดยคนดูส่วนใหญ่)ให้เป็นหนังคาวบอยสปาเก็ตตี้ที่ดีที่ สุดตลอดกาล(สูสีกับงานมาสเตอร์พีซอีกเรื่องของผกก. Leone เองอย่าง Once Upon a Time in the West) และได้รับการยกย่องขึ้นไปอีก(โดยคนดูส่วนใหญ่)ให้เป็นหนังคาวบอยที่ดีที่สุดตลอดกาล(คราวนี้นอกจากจะสูสีกับ Once Upon a Time in the West แล้ว ยังต้องสูสีกับทั้ง The Searcher  ,   High Noon  ,  หรือแม้กระทั่งหนังที่กำกับโดยตัว Eastwood เองอย่างUnforgiven) แต่สำหรับผมนะ…ครับ GB&U คือหนังคาวบอยที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่างไม่ต้องสงสัย(ขนาดเฮีย Quentin Tarantino ยังยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังสุดโปรดอันดับหนึ่งในใจพร้อมกับให้เหตุผลว่า“เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างมาในประวัติ ศาสตร์ภาพยนตร์”) นักแสดงนำทั้งสามคนในหนังเรื่องนี้ต่างรีดความ“แมน”ในตัวมาแข่งกันแบบเต็มที่ ทั้ง Clint Eastwood ผู้กลับมารับบทบุรุษนิรนาม (The Man With No Name) บทบาทที่เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของเขาจากคาวบอยคนซื่อในซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ Rawhide ไปเป็นคาวบอยขรึมเท่(และเจ้าเล่ห์)เป็นครั้งที่สามและเป็นครั้งสุดท้าย (หลังจากนั้น แม้จะเคารพซึ่งกันและกันมากขนาดไหน แต่คู่ผกก.-นักแสดงคู่บุญคู่นี้ (Leone กับ Eastwood) ก็ไม่ได้กลับมาร่วมงานด้วยกันอีกเลย…) 
          
          การแสดงของปู่ Clint ใน GB&U ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการแสดงของปู่แกในหนังสองภาคก่อน…หรือหนังเรื่องอื่น ๆ ของปู่แก(ไม่ว่าจะหมายถึงหนังคาวบอยหรือหนังชุดมือปราบปืนโหดก็ตาม) ถ้าเป็นกับนักแสดงสมัยนี้ การแอ็คติ้งแบบนี้คงโดนหาว่า“เล่นแข็ง”ไม่ก็“ขี้เก๊ก” แต่ถ้าเป็นกับปู่ Clint ผู้ที่เราเคารพรัก…มันคือเสน่ห์อันไม่เคยจางหาย  , Lee Van Cleef ในบท Sentenza หรือฉายาในฐานะมือปืนรับจ้างว่า Angle Eyes …ปู่ Van Cleef กลับมาแสดงในหนังไตรภาคนี้เป็นครั้งที่สอง(ครั้งแรกคือในหนังภาคสอง For a Few Dollars More) การแสดงของปู่ Van Cleef นั้นเข้าข่าย“ตัวร้ายสูตรสำเร็จ”คือ“ร้ายได้ ร้ายดี ไม่ต้องมีเหตุผล”ตามฟอร์มตัวร้ายยุคโบราณ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือ…การที่ปู่ Van Cleef สามารถสลัดคราบผู้พันคนดีในหนังภาคก่อน (For a Few Dollars More) มารับบทเป็นตัวร้ายในหนังภาคนี้ได้อย่างสนิทใจ ไม่เหลือเค้าความเป็นคนดีจากภาคก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว…ไม่ชื่นชมก็คงจะไม่ ได้  ,  Eli Wallach ในบท Tuco โจรกระจอกอัปลักษณ์ ตัวขโมยซีนประจำเรื่อง…จากนักแสดงนำชายทั้งสามคนในหนังเรื่องนี้ ปู่ Wallach คือคนที่ผมชอบมากที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่ปู่ Wallach ได้มาแสดงในไตรภาคหนังคาวบอยชุดนี้ แต่ปู่แกกลับสามารถกลบคนที่อยู่(เล่น)มาก่อนอย่างปู่ Clint กับปู่ Van Cleef เสียมิดด้วยลีลายียวนกวนบาทา บางครั้งก็น่าสงสาร น่าเอาใจช่วย…แต่หลายๆครั้ง(มัน)ก็น่าเอาปืนยิงไส้กระจุย  
          ด้วยความที่ GB&U เป็นหนังภาคที่มีทุนสร้างหนาที่สุดจากทั้งสามภาค (A Fistful of Dollars – 200  ,  000 เหรียญ  ,   For a Few Dollars More – 600  ,  000 เหรียญ  ,   GB&U – 1  ,  500  ,  000 เหรียญ) ผกก. Leone จึงสามารถเนรมิตอเมริกาภาคตะวันตกระหว่างเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้อย่าง ยิ่งใหญ่สมจริง รวมถึงฉากการรบระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ที่เป็นหนึ่งในฉากไคลแม็กซ์ของ เรื่อง(ที่ใช้คำว่า“หนึ่งใน”เพราะหนังเรื่องนี้มีฉากไคลแม็กซ์มากกว่าหนึ่ง ฉาก)  ฉะนั้นจะว่าไปแล้ว นอกจาก GB&U จะเป็นหนังคาวบอย(ก็แน่ละ) หนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังที่แฝงประเด็นการต่อต้านสงคราม (Anti-war) ด้วยเช่นกัน เช่นในฉากที่ Angel Eyes ยืนมองซากปรักหักพังของป้อมทหารโดยมีเพลงธีมของ Ennio Morricone คลอไปด้วย  หรือฉากที่บุรุษนิรนามพูดกับ Tuco ขณะดูการรบพุ่งของฝ่ายเหนือ-ฝ่ายใต้เพื่อแย่งชิงสะพานเล็กๆสะพานหนึ่งที่พวก ทหารชั้นผู้ใหญ่เห็นว่าเป็นจุดยุทธการสำคัญว่า“ไม่เคยเห็นมีคนเอาชีวิตมาทิ้งได้ไร้ค่าเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย”เป็นต้น  ชวนให้ผมตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยว่า หรือว่าหนังเรื่องนี้ผกก. Leone ก็ได้นำเอาหลักการมนุษยนิยมตามแบบในหนังซามูไรของ Akira Kurosawa มาใช้อีกครั้ง? (เพราะผกก. Leone เองนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการทำหนังภาคแรก A Fistful of Dollars มาจาก Yojimbo หนึ่งในหนังซามูไรชื่อดังของ Kurosawa) 
        ตามธรรมเนียมของหนังคาวบอยส่วนใหญ่ ฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องมักจะมีเพียงฉากเดียวเท่านั้นคือฉากที่พระเอกดวลปืนกับผู้ร้ายตอนท้ายเรื่อง…แต่ GB&U กลับเลือกที่จะแหกธรรมเนียมนั้น(รวมถึงธรรมเนียมของหนังส่วนใหญ่ที่ว่า“ฉาก ดีๆต้องเก็บเอาไว้ท้ายๆ”)ด้วยการใส่ฉากสำคัญๆเข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ฉากดวลปืนในเมืองตอนกลางเรื่องยันฉากดวลปืนแบบสามต่อสามกลางสุสานตอนท้ายเรื่อง ฉากเด็ดๆเหล่านี้จะฝังเข้าไปอยู่ในความทรงจำของคนดูหลังดูจบโดยอัตโนมัติ เชื่อได้เลยว่าใครที่เคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อนจะต้องมีสักฉากในหนังเรื่องนี้ที่ติดตาตรึงใจเป็นแน่   สำหรับผม…ฉากที่ติดตาตรึงใจผมมากที่สุดคือฉากที่บุรุษนิรนามจุดซิการ์ให้นายทหารที่ใกล้ตายคนหนึ่งได้สูบ…เป็นฉากที่แสดงความเป็นแมนของปู่ Clint ฟุ้งกระจายมากที่สุด และแสดงพัฒนาการ(Character development) ของตัวละครบุรุษนิรนามที่ตอนต้นเรื่องเป็นแค่มือปืนเห็นแก่ได้ธรรมดาไปเป็นชายคนหนึ่งที่เริ่มมีมโนธรรมในใจ เพลงประกอบของ Ennio Morricone ก็มาพีคสุด ๆ สำหรับผมในฉากนี้ ชวนบีบน้ำตาลูกผู้ชายมากๆ… 
           
        Blondie (The Good) is a professional gunslinger who is out trying to earn a few dollars. Angel Eyes (The Bad) is a hit man who always commits to a task and sees it through  ,   as long as he is paid to do so. And Tuco (The Ugly) is a wanted outlaw trying to take care of his own hide. Tuco and Blondie share a partnership together making money off Tuco s bounty  ,   but when Blondie unties the partnership  ,   Tuco tries to hunt down Blondie. When Blondie and Tuco comes across a horse carriage loaded with dead bodies  ,   they soon learn from the only survivor (Bill Carson) that he and a few other men have buried a stash of gold in a cemetery. Unfortunately Carson dies and Tuco only finds out the name of the cemetery  ,   while Blondie finds out the name on the grave. Now the two must keep each other alive in order to find the gold. Angel Eyes (who had been looking for Bill Carson) discovers that Tuco and Blondie meet with Carson and knows they know the location of the gold...

เครดิต คุณหนึ่ง 
ชมตัวอย่างได้ที่นี่


ความคิดเห็นล่าสุดจากผู้เข้าเยี่ยมชม

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger