26/1/54

หลวงตากะไอ้แกละ

          รื่องมีอยู่ว่า มีวัดอยู่วัดหนึ่ง ชื่อว่าวัดคลองผ่าน มีพระหลวงตาอยู่รูปเดียวและมีเด็กวัดหนึ่งคนชื่อไอ้แกละ แกพึ่งมาเป็นเด็กวัดยังไม่ถึงสามวัน  เรื่องการปรนนิบัติบางเรื่องบางอย่างก็ยังทำไม่เป็น เช่น เรื่องการประเคนของให้พระ      หลวงตาท่านเป็นพระค่อนข้างโกรธง่ายอยู่สักหน่อย เช้าวันหนึ่งในฤดูฝนท่านก็พายเรือออกไปบิณฑบาตตามปรกติตามคลอง        หลังจากท่านพายเรือออกไปได้สักพักก็มีโยมมาถวายของที่วัดแต่ไม่เจอหลวงตา     ด้วยความรีบไปทำงานก็เลยฝากแตงโมไว้กับไอ้แกละหวังให้เด็กถวายแทน   พอดีวันนั้นฝนตกตั้งแต่เช้าตรู่ ญาติโยมเลยไม่ได้ออกมาใส่บาตร ก็เลย
พายเรือกลับวัดพร้อมบ่นพึมพำมาตลอด(คงเพราะความหิว) พอถึงวัดเท่านั้นท่านก็ตะโกนเรียกหาไอ้แกละเป็นการใหญ่ว่า " ไอ้แกละโว้ย ไอ้แกละ"  ไอ้แกละได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งมาหาทันที พอมาถึงก็สั่งให้รีบไปก่อไฟต้มข้าวให้แกฉัน หลวงตาท่านจะฉันข้าวเพียงวันละมื้อเท่านั้น ไอ้แกละรีบวิ่งไปก่อไฟ เสร็จแล้วก็รีบไปเอาหม้อไปตักข้าวสารทันที พอเห็นข้าวมีเพียงสองกอบมือเลยเอาข้าวทั้งหมดไปซาวน้ำ เดินไปด้วยความรีบเลยลื่นหล้ม  ข้าวสารที่อยู่ในหม้อกระจัดกระจายหมดเลย   ไอ้แกละไปบอกหลวงตา ๆ ก็โกรธเป็นการใหญ่  ด่าต่าง ๆ นานา พร้อมกับให้ไปดูที่ตู้เย็นว่ามีอะไรก็เอามาถวายแก           เด็กก็บอกหลวงตาไปว่ามีโยมผู้หญิงมาจากกรุงเทพฯ เอาแตงโมมาถวายแต่ไม่เจอหลวงตา แล้วเขาก็ฝากให้ผมประเคนหลวงตาแทน "อย่างงั้นก็เอามาประเคนสิ จะมัวโอ้เอ้อืดอาดอยู่ทำไม"  ใอ้แกละก็วิ่งไปเอาแตงโมมาวางใว้ให้หลวงตา ๆ ก็บอกว่า "อ้าว ก็ประเคนสิ๊"  "ผมประเคนไม่เป็น ทำยังไงเหรอครับ"     ด้วยความหิวหลวงตาแกก็ยกลูกแตงโมขึ้นพร้อมกับพูดว่า "เขาประเคนอย่างงี้ จำไว้" แล้วก็เอาแตงโมทุ่มลงใส่หัวไอ้แกละ น้ำแดง ๆ ก็ไหลเต็มหัว  ไอ้แกละก็จำไว้ว่าการประเคนเขาประเคนกันแบบนี้       ก็เลยไปหัดประเคนกับตอไม้ให้คล่องเผื่อจะได้ประเคนหลวงตาใด้อย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้ท่านได้ดุด่าอีก  แปลว่าทั้งวันไอ้แกละซ้อมการประเคนของกับตอไม้เป็นการใหญ่  
          พอถึงวันรุ่งขึ้นก็เหมือนเดิมไม่รู้เป็นอะไร หรือว่าจะเป็นวันซวยของหลวงตาแกก็ไม่ทราบ ฝนเริ่มตกตั้งแต่ตีสี่จนเวลาบิณฑบาตก็ยังไม่หยุด(อาจจะตกไม่หนักพอกลางร่มไปได้) หลวงตาแกก็พายเรือไปบิณฑบาตตามเคย โยมคนเดิมที่ได้มาถวายแตงโมให้หลวงตาเมื่อวานมาอีกแล้ว แต่วันนี้เขาได้เอาทุเรียนมาถวาย แต่พอมาถึงก็ไม่พบหลวงตาเหมือนเดิมก็เลยฝากทุเรียนไว้แล้วรีบไปทำงาน  
          กล่าวถึงหลวงตาที่กำลังพายเรือไปบิณฑบาต ไม่มีใครออกมาใส่บาตรแก ๆ ก็ยิ่งโกรธเป็นการใหญ่บ่นอีกว่า "สองวันแล้วนะ ฮึ่ม สองวันแล้วนะ" พอกลับมาถึงวัดแกก็ตะโกนเรียกหาไอ้แกละเหมือนเดิม เด็กก็บอกว่า "หลวงตาครับ ข้าวสารหมดแล้วนะตั้งแต่เมื่อวาน"  เมื่อหลวงตาได้ฟังดังนั้นก็บอกให้ไปดูที่ตู้เย็นว่ามีอะไรพอฉันได้บ้าง  เด็กได้บอกไปว่า "หลวงตาครับ มีโยมเขาเอาผลไม้มาถวายเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว ๆ ก็กลับไปแล้วครับ"  "ก็เอามาประเคนสิ๊ เซ่ออยู่ได้ ไอ้เด็ก..... ไป๊ ไปเอามา หิวแล้ว"  ไอ้แกละก็เดินไปเอาทุเรียนมาวางไว้เหมือนเดิม หลวงตาก็บอกว่า " ก็ประเคนสิ๊ มัวชักช้าอยู่อีกทำไม  ไอ้แกละได้ที ก็ยกผลทุเรียนทั้งผลขึ้นประเคนเข้าที่หัวหลวงตาเต็ม ๆ แล้วน้ำสีแดง ๆ ก็ไหลออกมาจากหัวหลวงตา.

         เรื่องราวนี้สอนให้เราได้รู้อะไรบ้างเอ่ย ที่เป็นภาพสะท้อนของตัวละคร ใครอ่านแล้วสามารถแสดงความเห็นได้น่ะ


เรื่องเล่าโดย คุณจำปี

2 comments:

แอ กล่าวว่า...

เรื่องนี้อ่านแล้วบอกให้รู้ว่าขาดการอยู่ร่วมกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและการขาดการอบรมบ่มนิสัยที่ดี

บุลวัชร กล่าวว่า...

ก็มีหลายมุมมองอะน่ะ อีกมุมมองหนึ่งก็คือ ถ้าผู้ใดอยู่ใต้อำนาจของความโกรธแล้ว ย่อมจะสร้างความทุกข์ ความเดือดร้อนให้กับตนเอง และผู้อื่น.

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นล่าสุดจากผู้เข้าเยี่ยมชม

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger