31/1/54

บทสวดมนต์ไหว้พระ (บทหลัก)

    
          ก่อนอ่านบทความนี้ ควรอ่านบทความ ไหว้พระสวดมนต์ ก่อน    บทสวดมนต์ไหว้พระ บทหลัก ๆ แล้วก็คือบทที่กล่าวสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ คือบท  อิติปิ  โส   ก็จะขอยกมากล่าวและชี้แจงไว้พอเป็นแนวทาง (เฉพาะรูปแบบสวดมนต์ก่อนนอน)

อันดับแรก
กราบ 3 ครั้ง แล้วว่าบทต่อไปนี้
          อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ  ภะคะวา                     พุทธัง  ภะคะวันตัง  อะภิวาเทมิ  (กราบ)
          (ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า  ผู้เป็นพระอรหันต์   ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
          ผู้จำแนกธรรม  ผู้รู้  ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)

          สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม                          ธัมมัง  นะมัสสามิ  (กราบ)
          (ข้าพเจ้านมัสการพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว)

          สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ               สังฆัง  นะมามิ  (กราบ)
          (ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว)

ต่อด้วย นะโม และ อิติปิ  โส  ตามลำดับ
          นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ กล่าว 3 จบ
          (ขอน้อบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง พระองค์นั้น)
          อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ,  วิชชาจะระณะสัมปันโน  สุคะโต  โลกะวิทู,  อนุตตะโร    ปุริสะธัมมะสาระถิ,  สัตถาเทวะมะนุสสานัง  พุทโธ  ภะคะวาติ.  สวากขาโต  ภะคะวะตา ธัมโม,  สันทิฏฐิโก  อะกาลิโก,  เอหิปัสสิโก  โอปะนะยิโก,  ปัจจัตตัง  เวทิตัพโพ  วิญญูหีติ. สุปฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  อุชุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  ยะทิทัง  จัตตาริ  ปุริสะยุคคานิ  อัฏฐะ  ปุริสะปุคคะลา,  เอสะ  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย  ปาหุเนยโย  ทักขิเณยโย  อัญชะลีกะระณีโย,  อนุตตะรัง  ปุญญักเขตตัง  โลกัสสาติ.

(เพราะเหตุดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง  พร้อมไปด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว รู้จักโลกอย่างแจ่มแจ้ง สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอนเหล่าเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม ชำนาญในการจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์.  พระธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน.    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า   ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรงแล้ว ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว ปฏิบัติสมควรแล้ว  คือคู่บุรุษ 4 คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ 8 บุรุษ    นี้คือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า   เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.)       จากนี้สามารถสวดบทอื่น ๆ ต่อได้แล้วแต่ถนัด ถ้าคิดว่าบทนั้น ๆ เหมาะกับตนเอง ต่อไปเป็นบทแผ่เมตตา
          ก่อนหรือหลังแผ่เมตตาควรทำสมาธิในรูปแบบการนั่งหลับตา (ตามสมควรกับเวลา)โดยการตามดูลมหายใจเข้าออก (อานาปาณสติกัมมัฏฐาน) กำหนดดูลมกระทบที่ปลายจมูก ลมหายใจเข้ารู้ ลมหายใจออกก็รู้ ถ้าตั้งใจทำและทำอย่างถูกวิธี จิตก็จะเป็นสมาธิ ละเอียด ประณีตเป็นลำดับขั้นไป  ถ้าทำได้เพียงแค่ระดับนี้ก็จะเห็นความแตกต่างเลยทีเดียว  ต่อไปเป็นบทแผ่เมตตาให้กับตนเอง
          อะหัง  สุขิโต  โหมิ  ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
          อเวโร  โหมิ  ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้มีเวรกับใคร ๆ เลย
          อัพยาปัชโช  โหมิ  ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้เบียดเบียนใคร ๆ เลย
          อนีโฆ  โหมิ  ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
          สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรามิ  ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้ง
          ปวงเถิด

บทแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์
          สัพเพ  สัตตา  สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
          อะเวรา  โหนตุ  อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
          อัพยาปัชชา  โหนตุ  อย่าได้พยาบาท เบียดเบียนกันและกันเลย
          อะนีฆา  โหนตุ  อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
          สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ  ขอให้มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด

กราบ 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธีการไหว้พระสวดมนต์

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นล่าสุดจากผู้เข้าเยี่ยมชม

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger